พ่อรวยสอนลูก หนังสือธุรกิจ ที่ CEO ทั่วโลกแนะนำให้อ่าน

Rich dad poor dad

หากคุณเคยค้นหา “หนังสือการเงินที่ดีที่สุด” บน Google คุณจะต้องเคยเห็นชื่อ “พ่อรวยสอนลูก” ปรากฏอยู่ด้านบนสุด หนังสือเล่มนี้เขียนโดย โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ (Robert T. Kiyosaki) และ Sharon L. Lechter มียอดขายมากกว่า 32 ล้านเล่มใน 40 ภาษาทั่ว 40 ประเทศ นับตั้งแต่ได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2545 เป็นเรื่องราวเชิงเปรียบเทียบในชีวิตของโรเบิร์ต คิโยซากิ กับพ่อสองคน ที่เขาต้องเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ การถูกกำหนดมุมมองทางการเงิน

“พ่อจน” คือบิดาผู้ให้กำเนิดของคิโยซากิ เป็นอาจารย์วิทยาลัยที่มีการศึกษาระดับสูง ส่วน “พ่อรวย” เป็นพ่อของเพื่อนที่ดีที่สุดของคิโยซากิ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ร่ำรวย เป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย พ่อทั้งสองมักจะมีแนวคิดที่ขัดแย่งกันเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องการเงิน พ่อรวยมักสอนเสมอว่าการเป็นคนรวยนั้น ไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก แถมยังมีอิสระมากกว่า อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากลงทุนเพิ่มก็มีเวลา เพราะเราเรียนรู้วิธีการ ที่จะนำให้เงินทำงานให้กับเรา ในขณะที่คนอื่นทำงานเพื่อที่จะได้เงิน เขาจึงสอนคิโยซากิเสมอว่า ความรู้จักใช้เงินเป็นสิ่งสำคัญ

ความคิดในใจของ “Poor dad’

พ่อของคิโยซากิ เชื่อว่าควรทำงานเพื่อเงินในฐานะพนักงานเงินเดือน เพราะปลอดภัย และมีความมั่นคงกว่า และความมั่งคั่งของบุคคลนั้น ขึ้นอยู่กับภูมิหลังของครอบครัวเป็นหลัก เขาเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อความอยู่รอดทางการเงิน คือการอ่านและเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จ หลายคนคิดว่าความคิดนี้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาถูกขังอยู่กับอาชีพที่ไม่ได้รัก แต่ก็ยังต้องทำต่อไป เพราะต้องหาเงินมาใช้จ่าย

ความคิดตรงกันข้ามของ “Rich dad”

“พ่อรวย” แนะนำให้คิโยซากิหางานทำ เพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็น สำหรับการเป็นผู้ประกอบการที่ดี ความมั่งคั่งมาจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ และมีรายได้ที่หลากหลาย เมื่อ“ พ่อจน” สนับสนุนให้เติบโตด้วยการไต่เต้าขึ้นไป พ่อรวยหัวเราะแล้วพูดว่า จะปีนบันไดทำไม ในเมื่อเราสามารถเป็นเจ้าของบันไดนั้นได้ ในขณะที่คำแนะนำส่วนใหญ่ในหนังสือ พ่อรวยสอนลูก มาจากประสบการณ์ของคิโยซากิเอง ซึ่งเขาได้รวบรวมความสนใจที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในเรื่องการเงิน เอามาไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพื่อเสนอบทเรียนที่จะเป็นประโยชน์กับทุกคน

1.คนรวยซื้อทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่ซื้อหนี้สิ้น

2.ความรู้ทางการเงิน สามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์เท่านั้น

3.เรียนรู้การขาย

4.ความกลัว และความสงสัย เป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสำเร็จของคุณ

5.คิดในแง่ของโอกาสเสมอ